แน่นอนว่าสำหรับเว็บไซต์ Taobao.com ในเวลานี้คนทำตลาดจีนไม่มีใครที่ไม่รู้จักครับ เพราะเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมด้านE-Commerce จากเครือของบริษัท Alibaba ซึ่งเริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่ในปี ค.ศ. 2003 และยังได้รับความนิยมถึงปัจจุบันนี้
แต่เนื่องจาก Taobao.com เป็นเว็บไซต์สำหรับร้านค้าปลีกที่มุ่งภายในประเทศจีน และเน้นสำหรับขายสินค้าประเภท SMEs และให้คนทั่วไป ดังนั้นพวกสินค้าที่เป็นแบรนด์เนมจากต่างประเทศ ก็เลยไม่ได้วางขายที่นี่นั่นเอง ซึ่งกลุ่มแบรนด์เนมจะไปอยู่ใน Tmall แต่ที่จริงแล้วก็มีการสั่งสินค้าจาก Taobao ไปนอกประเทศได้ และกำลังได้รับความสนใจมากด้วย เพียงแต่ว่าร้านค้าใน Taobao จะเป็นค้าปลีก ไม่ใช่ค้าส่ง ดังนั้นจึงเหมาะกับการสั่งจำนวนน้อย หรือสั่งมาทดลองตลาดมากกว่าจะสั่งเพื่อนำมาขายต่อจริงจัง ซึ่งถ้าต้องการมองหาสินค้าเพื่อนำมาขายต่อจำนวนมาก ควรไปดูในเว็บไซต์สำหรับขายส่งอย่าง Aliexpress และ 1168 หรือจะบินไปดูในงานนำแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในกว่างโจวเองเลยก็ได้
แต่ก่อนอื่นลองมาดูจุดเด่นของ Taobao กันสักหน่อย
คอนเซปต์ของเว็บไซต์คือ ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถนำสินค้ามาเปิดร้านขายบนเว็บได้ ซึ่งนี่ก็เลยทำให้กลายจุดเด่นที่สุดไปด้วย นั่นก็คือทำให้สินค้าบนเว็บจะมีราคาถูกมาก เพราะเป็นการซื้อโดยตรงจากผู้ผลิต เจ้าของโรงงาน หรือร้านค้าท้องถิ่นโดยตรงครับ ดังนั้นในปัจจุบัน Taobao กลายเป็นเว็บ E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เพราะมีพ่อค้าแม่ค้าและผู้ผลิตจากทั่วประเทศนำของมาขายอยู่ในนี้ ใครๆก็สามารถนำของมาขายได้ด้วย ส่วนการชำระเงินก็สามารถทำได้ง่ายๆผ่านแอพของ Alipay
มีหลายปัจจัยครอบคลุมครับ ถ้าให้ลองสรุป ก็จะมี
ในภาพรวมแล้ว ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้คนจีนใช้งาน Taobao แทบจะทั่วประเทศครับ
TMall and Taobao เป็นสองผู้เล่นหลักในตลาด E-commerce ยุคบุกเบิก อารมณ์คือ เริ่มก่อนก็ได้เปรียบนั่นเอง
เนื่องจากเครือบริษัท Alibaba Group เป็นผู้เล่นรายแรกๆที่ลงมาจับตลาดอีคอมเมิร์ซในจีน ทั้งแบบ C2C และ B2C ตั้งแต่แรกเริ่ม ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ตลาดนี้เริ่มเป็นที่สนใจและเข้าแทรกซึมในพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้คน เลยทำให้ Alibaba สามารถครองสัดส่วนมากกว่า 80% ของทั้งตลาดและมีการทำธุรกรรมทางออนไลน์ที่เกิดขึ้นกว่า 100,000,000 ครั้งต่อวันเลยทีเดียว
คล้ายกับความสำเร็จของพวก Amazon eBay Micosoft Facebook ที่เริ่มลุยตลาดใหม่ๆที่ยังไม่มีบริษัทรายใหญ่ดั้งเดิมตัวไหนเข้ามาจับ ทีนี้พอถึงเวลาที่พฤติกรรมผู้คนเปลี่ยน พวกเขาก็ครองตลาดนั่นเอง
มีข้อมูลรายงานว่าในช่วงหลายปีหลัง การทำธุรกรรมออนไลน์กับ Taobao มีการเติบโตอย่างมากภายในสามมณฑลทางภาคตะวันออกติดชายฝั่งทะเลของจีน
ซึ่งหนึ่งในโครงการสำคัญที่ Alibaba เข้าไปจับก็คือ การทำ หมู่บ้าน Taobao นั่นคือการให้หมู่บ้านยากจนในชนบทเข้าร่วมกับการใช้งานแพลทฟอร์มในการกระจายสินค้าออกไปนอกพื้นที่ของตนเอง รวมถึงไปทั่วประเทศ เป็นการเพิ่มรายได้และโอกาสสำหรับผู้ประกอบการท้องถิ่นและคนจีนในชนบทด้วย
สำหรับการเพิ่มขึ้นของหมู่บ้าน Taobao เริ่มเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2009 โดยเฉพาะในสามมณฑลสำคัญทางภาคตะวันออกติดทะเล ได้แก่ เจ้อเจียง กวางตุ้ง เจียงซู ตามด้วย ซานตง ฟูเจี้ยน และต่อไปก็จะเติบโตขึ้นอีกมา
สำหรับกลุ่มของสินค้าหลักที่ได้รับความนิยมในการซื้อขาย จะเป็นพวกผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น หรือสามารถผลิตได้ในครัวเรือน หรือกับกิจการขนาดย่อม อาทิ อาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอนามัย เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มของใช้ในครัวเรือ ของตกแต่งในบ้าน กระเป๋า หนังสือ เป็นต้น
เรื่องนี้คงต้องว่ากันด้วยสถิติและรายงานที่มีการระบุว่า ในปี 2017 หมู่บ้าน Taobao ทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการสามารถสร้างยอดขายเป็นมูลค่ากว่า 120 พันล้านหยวน ซึ่งก็น่าจะช่วยเพิ่มและยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจและรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นและชนบทของจีนได้ไม่น้อย มีกรณีตัวอย่างเช่น หมู่บ้าน Dinglou ในอำเภอ Cao เป็นหนึ่งในโครงการหมู่บ้าน Taobao มีประชากรราว 1,100 คน เวลานี้พวกเขามีคนที่มีฐานะมากขึ้นจนสามารถซื้อรถยนต์มาใช้ได้มากกว่า 240 คัน หรือเท่ากับร้อยละ 21.8 ต่อประชากร 100 คน ซึ่งมากกว่าพื้นที่อื่นๆในจังหวัดเดียวกัน
หรือมีกรณีตัวอย่างที่อำเภอก่วนเถา มณฑลเหอเป่ย หลังจากเริ่มเป็นหนึ่งในต้นแบบของโครงการ พวกเขาใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็สามารถยกระดับการจำหน่ายสินค้าในระบบออนไลน์ให้เพิ่มมากขึ้นได้ กระทั่งได้รับเงินทุน 15 ล้านหยวนจากรัฐบาลจีนเพื่อตั้งศูนย์บริการสำหรับ E-Commerce และศูนย์การแสดงสินค้า O2O ในปัจจุบันที่นี่มียอดจำหน่ายสั่งซื้อสินค้าทาง Taobao มากกว่า 4 แสนรายการ เป็นมูลค่ารวมมากกว่า 29.8 ล้านหยวน
ในภาพรวมแล้ว Taobao เป็นแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ C2C รายใหญ่สุดของจีนและได้รับความนิยมในคนจีนและผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งก็มีแนวโน้มเติบโตยิ่งขึ้นอีกหลังจากนี้ด้วย
===============================================
สามารถติดตามเรา PSO ( Passive Selling Online ) ได้หลายช่องทางดังนี้
Facebook Page: passivesellingonline
LINE: @psocourse (อย่าลืมใส่เครื่องหมาย @ ด้วยนะครับ)