มุมมองด้านอาชีพ ปัญญาประดิษฐ์ A.I. กับโลกอนาคต
ปัญญาประดิษฐ์ A.I. กับโลกอนาคต เมื่อเรื่องนี้กำลังกลายเป็นที่สนใจจากทั่วโลก ตั้งหลักออนไลน์ ก็จะอัพเดทประเด็นนี้เช่นกันครับ
เนื่องจากเรื่องของ “ปัญญาประดิษฐ์ A.I.” กำลังกลายเป็นที่สนใจทั่วโลกว่ามันจะเข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์ แล้วยิ่งหลังจาก แจ็คหม่า แห่งเครืออาลีบาบา ได้ทำการดีเบต กับ อีลอน มัสก์ แห่งบริษัทเทสล่า ในงานประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก World Artificial Intelligence (WAIC) 2019 ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ เกี่ยวกับอนาคตของการใช้ปัญญา ประดิษฐ์ A.I. เพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ ทั้งสองคนก็มีการแสดงมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป ซึ่งการประชุมครั้งนี้ หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงานก็คือ การขึ้นเวทีเพื่อดีเบตร่วมกันระหว่าง แจ็คหม่า แห่ง อาลีบาบา กับ อีลอน มัสก์ แห่ง เทสล่า สองผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของจีนและสหรัฐอเมริกา
โดยหนึ่งในหัวข้อสำคัญคือ การแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับการนำปัญญาประดิษฐ์ A.I. เข้ามาใช้เพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ในหลากหลายวงการ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ไปจนถึงเรื่องของอนาคตของมนุษยชาติและโลก ไปจนถึงการสำรวจดาวอังคาร ซึ่งทั้งหมดนี้มีมุมมองในแง่บวกและลบที่น่าสนใจ
ซึ่งก็มีคำถามสำคัญในประเด็นนี้ก็คือ แล้วปัญญาประดิษฐ์ มันจะเข้ามาแย่งการทำงานงานของมนุษย์จริงหรือไม่ เกี่ยวกับประเด็นนี้ พบว่าทั้งสองฝ่ายกลับมีทัศนะและมุมมองที่แตกต่างกันพอสมควร
อีลอน มัสก์ ชี้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ A.I. กำลังมีความรุดหน้ามาก ซึ่งมนุษย์ก็ประเมินความสามารถของ A.I. ต่ำเกินไป ทำให้ในอนาคตหลังจากนี้ มันจะมีการทำงานเกินกำลังจากสติปัญญาของมนุษย์ ดังนั้นหนึ่งในทางออกที่ควรต้องมองกันก็คือ มนุษย์เองก็ต้องรู้จักที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับมันให้ได้ ไปจนถึงการทำงาน การใช้ชีวิต และลักษณะของอาชีพต่าง ๆ
แต่ทางฝั่ง แจ็คหม่า ก็มีทัศนะในเรื่องนี้ที่แตกต่างออกไปว่า ปัญญาประดิษฐ์ A.I. ก็ต้องมีความก้าวหน้าและฉลาดกว่ามนุษย์อยู่แล้ว เพราะมันถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยเป้าหมายสำคัญคือ ช่วยการอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันและในด้านการทำงานต่าง ๆ ให้กับมนุษย์ และไม่ได้เป็นภัยอย่างที่กังวลกันเกินไป
แล้วสำหรับหนึ่งในความกังวลที่หลายฝ่ายพูดถึงกันก็คือ ปัญญาประดิษฐ์ A.I. อาจจะเข้ามาแย่งงานจากมนุษย์ หรืออาจจะทำให้หลายสายงานต้องตกงานมากขึ้น โดยทางอีลอน มัสก์ ให้ทัศนะก็คือ การพัฒนาของ AI จะทำให้แรงงานมนุษย์ในหลายสาขาไร้ความหมาย และงานของมนุษย์จะลดลง แต่ในส่วนของสาขาบางอย่าง เช่น ด้านความสัมพันธ์ของมนุษย์ หรืองานด้าน วิศวกรรม ที่มนุษย์จะต้องควบคุม AI อีกที ก็จะกลายเป็นสาขางานที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการ
แต่ในด้าน แจ็ค หม่า ให้ทัศนะว่า ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลในประเด็นนี้เกินไป เพราะมนุษย์มีความคิดในทำนองว่า หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรจะเข้ามาแย่งงานมนุษย์มาเกือบศตวรรษแล้ว แม้มันจะเริ่มส่งสัญญาณในบางสาขา แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันกลับทำให้มีงานใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาที่มนุษย์จะเข้ามาทำงานในส่วนเหล่านี้ และลดทอนงานประเภท Routine ลงไป อีกทั้งมนุษย์ก็จะมีชั่วโมงการทำงานที่ลดลง และแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นบ้างแล้วกลับมีความขัดแย้งกับสิ่งที่ แจ็คหม่า เคยพูดไว้เกี่ยวกับการทำงานของบริษัท Start Up หลายแห่ง ที่ช่วงแรกต้องทำงานกันคนละ 12 ชั่วโมงต่อวัน อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเรื่องพื้นฐานของธุรกิจในช่วงแรกเริ่มที่จะต้องทำงานหนักเพื่อปูรากฐานก่อน และอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของ AI โดยตรงด้วยนั่นเอง
===============================================
สามารถติดตามเรา PSO ( Passive Selling Online ) ได้หลายช่องทางดังนี้
Facebook Page: passivesellingonline
LINE: @psocourse (อย่าลืมใส่เครื่องหมาย @ ด้วยนะครับ)