Content เขียนให้ใครอ่าน

          ต้องรู้ก่อนครับว่า Content เราจะเขียนให้ใครอ่านการไม่ว่าจะเป็นการปั้นแบรนด์หรือทำ Content แบบบอกเล่าเรื่องราว หรือที่เรียกกันว่า Story Telling  อันที่จริงแล้วมีอะไรบางอย่างที่เรียบง่ายกว่านั้นในแง่มุมของคนเขียนครับ ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับ Content ก็คือ“เราต้องการสื่อสารอะไร และถึงใคร”

          ที่จริงมีอยู่หลายครั้งที่คุณสามารถทำให้เรื่องราวที่น่า “น่าเบื่อ” หรือ “ไม่ใช่เรื่องในกระแส” ไม่ได้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคนหมู่มาก แต่สามารถกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ มีคนกดแชร์ออกไป หรืออาจจะเรียกยอดวิวได้มากกว่าที่คาดคิด ไปจนถึงช่วยดันอันดับสำหรับ SEO บน Google Ranking ได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าสามารถตอบโจทย์สำคัญสองข้อที่ว่าได้สำหรับเทคนิคการบอกเล่าเรื่องราวแบบ Story Telling คุณสามารถนำมาใช้ผสมผสานมากน้อยต่างกันไปได้ครับ ที่สำคัญคือในหลาย Content ก็ไม่ได้มีเนื้อที่ให้คุณปั้นเรื่องราวที่น่าสนใจมากนัก ดังนั้นถ้าเป็นข้อเขียนก็อาจจะเป็นเพียงโพสต์สั้นๆ หรือบทความแค่ครึ่งหน้า A4 หรือถ้าเป็นคลิปวีดีโอ อาจจะมีเวลาเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น

          ซึ่งบางครั้งด้วยเวลาเท่านั้น การจะบอกเล่าเรื่องราวย่อมมีข้อจำกัด แต่ถ้าเราสามารถตีโจทย์ให้แตกได้ว่า What & Who คุณก็สามารถสร้าง Content ที่สื่อสารได้อย่างชัดเจนและตรงประเด็นโดยไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาเล่ายืดยาวแต่ไม่ได้เนื้อเลยอีกต่อไปครับ

          แต่ข้อควรระวังก็มี เพราะหลายคนอาจจะยังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่า เอ สรุปแล้ว Content ของเราต้องการบอกอะไร แล้วบอกใครกันแน่ อันนี้ถ้าไม่รู้จะอันตรายมากครับ โอกาสแป้กก็สูงไปด้วย เพราะฉะนั้นต้องทำการวิเคราะห์ตลาดทั้งในส่วนของสิ่งที่เราจะสื่อสารและกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกันครับ ซึ่งเรื่องนี้จะได้อัพเดทภายหลังครับ

วิธีสร้างแรงบันดาลใจ คิดคอนเทนต์ไม่ออก ทำไงดี

การเขียน Content หลายครั้งเราก็จำเป็นต้องใช้แรงบันดาลใจไม่น้อยในการช่วยเพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์คนอ่าน และเรียกคนเข้ามาดูเพิ่ม แต่เมื่อทำไปนานๆเข้า เราอาจจะรู้สึกว่า “มันถึงทางตัน” ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรต่อไปดี หรือแม้แต่จะทำคลิปยูทูป ก็รู้สึกว่าหมดไอเดียสุดๆ

วันนี้เราเลยนำเสนอ วิธีกระตุ้นและค้นหาแรงบันดาลใจ ในการเขียนและสร้างคอนเทนต์ โดยเฉพาะในยุคของการแข่งขันบนแพลทฟอร์มออนไลน์ที่ทุกคนต่างก็พยายามค้นหาโอกาสในการตลาดไปด้วย มาลองดูว่ามีอะไรบ้าง 

1.เนื้อหาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

ทำคอนเทนต์ให้ตรงกับ Target Group…ที่จริงแล้วทุกคนก็อยากจะทำให้ได้แบบนี้กันทั้งนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป 

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตรงกลุ่มเป้าหมาย ลองใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆเข้าช่วย บางทีเราอาจจะได้ไอเดียจากเครื่องมือเหล่านั้นก็ได้ครับ เช่น Google Trends, Google Keyword Planner, Neilpatel, Ahrefs ฯลฯ

แล้วคอนเทนต์เหล่านั้นก็ควรให้สอดคล้องกับเพจหรือเว็บไซต์ของเราด้วยครับ ไม่ออกทะเลจนเกินไป

2.ที่จริงแล้วเราอยากทำคอนเทนต์อะไร

วิธีง่ายที่สุดอย่างหนึ่งคือบางครั้งก็ไม่ต้องยึดติดกับคนอ่านเป็นอันดับหนึ่ง แต่ทำในสิ่งที่คุณอยากนำเสนอดูก่อน

นำเสนอความเป็นตัวตนให้เต็มที่ดู ถ้าไม่เวิร์คเราค่อยย้อนกลับมาดูและปรับปรุงครับ แต่แนะนำให้ทำในเรื่องที่เราถนัด

3.ลองหาไอเดียจากลูกค้า

วิธีนี้อาจจะใช้ไม่ได้ในทุกกรณี แต่ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีมากๆ เพราะบางครั้งเรื่องราวหรือไอเดียดีๆจากลูกค้าของคุณเองนี่แหละอาจจะสามารถมาประยุกต์เป็นคอนเทนต์ให้คุณได้ 

ซึ่งบางทีไม่จำเป็นต้องซับซ้อนก็ได้ อาจจะให้ลูกค้าลองรีวิวสินค้าและบริการของคุณดูว่าเขาประทับใจอะไรบ้าง เมื่อมากเข้าคุณอาจจะได้พบจุดแข็งและจุดด้อยของสินค้าคุณเองว่ามันมีอะไรอยู่บ้าง 

4.เล่นกับไวรัล

วิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุดก็คือ ค้นหาผ่านแพลทฟอร์มต่างๆว่า เวลานั้นมีเรื่องอะไรที่มันเป็น ไวรัล หรือเป็นเทรนด์ดังๆอยู่บ้าง ลองทำคอนเทนต์ต่อยอดจากไวรัลเหล่านั้นก็ได้

5.ลองทดสอบตลาดบ้าง

เราอาจจะเทสตลาดด้วยการโพสต์อะไรสักอย่างดูบ้าง เพื่อทดสอบดูว่าลูกค้าหรือผู้ติดตามของเราเขามีการตอบสนองและมองเห็นหน้าเพจมากน้อยแค่ไหน หรือถ้าเป็นแพลทฟอร์มอื่นๆ เช่น ยูทูป Tiktok ก็สามารถลองทดสอบเพื่อดู Reaction ได้เสมอ

6.เทคนิคตัวเลข

บางครั้งถ้าคิดอะไรไม่ออก ลองใช้เทคนิคเรื่องตัวเลขเข้าช่วยในการสร้างคอนเทนต์บ้างก็ดี 

ตัวอย่างเช่น 

• 7 เว็บไซต์สำหรับเขียนนิยายออนไลน์
• 5 ขั้นตอนการสมัคร….
• 10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวใน…

7.Q&A เนื้อหาเชิงตอบโต้

การทำคอนเทนต์เชิงตอบโต้ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาเขียนคอนเทนต์ไม่ออกได้ โดยเราสามารถเอาเรื่องที่ต้องการนำเสนอมาทำเป็นลักษณะของการถามโต้ตอบ Q&A ช่วยให้แจงประเด็นที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

===============================================
สามารถติดตามเรา PSO ( Passive Selling Online ) ได้หลายช่องทางดังนี้
Facebook Page: passivesellingonline
LINE: @psocourse (อย่าลืมใส่เครื่องหมาย @ ด้วยนะครับ)