เคยหรือไม่ครับ เรารู้ว่ามีอะไรดีอยู่กับตัว แต่กลับสร้างแบรนด์ไม่ได้ ปั้นไม่ได้ ขายไม่ได้ ทั้งที่ของมันมีดีอยู่ เราเองก็รู้ สุดท้ายพอเราไม่ทำ คนอื่นเขาก็ทำ แล้วทำได้ดีมากด้วย พอเราจะขยับตัวทำบ้างก็สายไปแล้ว แข่งขันในตลาดยากแล้ว
ตั้งหลักออนไลน์อยากพามาดูเคสของ “ทุเรียน”
“ทุเรียนไทย” คือ “ราชาผลไม้” คือ สุดยอดของผลไม้ เรารู้กันมานาน และก็เป็นหนึ่งในผลไม้ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเข้ามาแล้วนิยมซื้อทุเรียนในรูปแบบตากแห้งหรืออบกรอบเป็นของฝาก ในขณะที่ทุเรียนหมอนทองของไทยก็ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผลไม้และอาหารที่ชาวต่างชาติอยากมาลิ้มรสชาติที่ประเทศไทยสักครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ทุเรียนก็ถือว่าเป็นผลไม้ที่ไทยเราส่งออกไปต่างประเทศมาก โดยเฉพาะตลาดจีนกำลังเป็นตลาดใหญ่ของทุเรียนไทย โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทอง ซึ่งคนจีนชื่นชอบกันมานาน
แต่ในเวลาเพียงไม่กี่ปี ปรากฏว่าทุเรียนจีนกำลังเริ่มสร้าง Brand ที่แข็งแกร่งขึ้นมา โดยใช้สโลแกนที่ว่า “ทุเรียนดีที่สุดในโลก มาจากแหล่งผลิตในจีน”
นี่คือเคสของ “ทุเรียนเหวินจี้” ซึ่งน่าสนใจมากครับ โดยมีโฆษณาชิ้นหนึ่ง ที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ว่า
“ราชาแห่งผลไม้ ต้องทุเรียนเหวินจี้”
นอกจากนี้ยังพยายามส่งเสริมการตลาดด้วยว่า นี่คือทุเรียนอันดับหนึ่ง ทุเรียนที่ดีที่สุด
การสร้างแบรนด์ดังกล่าว ก็เพื่อที่จะกระตุ้นความรู้สึกของคนจีนว่า ไม่ต้องไปโหยหาหรือแสวงหาทุเรียนชั้นยอดจากที่ไหน เพราะที่จีนเองก็ผลิตได้ดีที่สุดเหมือนกัน
อีกทั้งในช่วง 2-3 ปีมานี้ นักลงทุนจีนก็ได้เข้ามาเหมาและลงทุนในกิจการสวนทุเรียนในภาคตะวันออกของไทยไปมาก เนื่องจากทางจีนเองก็มีความต้องการคัดเอาทุเรียนพันธุ์ดีนำเข้าไปจีน เพราะนี่เป็นผลไม้ที่คนจีนแผ่นดินใหญ่โปรดปราน มียอดขายมหาศาล และกระจายไปทั่วประเทศ
ไทยเราก็รู้กันแบบนี้ แต่ปรากฏว่าในขณะที่ธุรกิจออนไลน์ส่งออกทุเรียนของไทยได้ดำเนินมานานกว่า 30 ปี และเป็นที่ยอมรับ แต่ก็ทางหนึ่งมันก็เป็นการการส่งออกไปตามยถากรรมของเจ้าของรายย่อยและรายใหญ่บ้าง แม้ว่าราคาของทุเรียนจะถูกเรียกว่าดีมาก แต่อันที่จริงแล้วบรรดาเจ้าของสวนทุเรียนหลายแห่งในไทยก็ควรจะมีผลกำไรและร่ำรวยกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ได้มีการวางมาตรการทางกฎหมายหรือข้อบังคับอะไรที่จะช่วยชาวสวนของไทยไม่ให้ต้องโดนนายทุนจีนเข้ามาครอบครองเท่าไรนัก ซึ่งกว่าจะขยับตรงนี้ การดำเนินการก็ยังช้าเกินไป แม้ว่าทุเรียนจะเป็นสินค้าส่งออกไปจีนเป็นอันดับต้นๆอยู่ในทุกวันนี้ก็ตามที