5 เครื่องมือของ Google สำหรับธุรกิจดิจิทัล

5 เครื่องมือของ Google สำหรับธุรกิจดิจิทัล

5 เครื่องมือของ Google สำหรับธุรกิจดิจิทัล

มาตั้งหลักออนไลน์ พามารู้จักกับเครื่องมือทำการตลาดของ Google ซึ่งผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ต้องมี ซึ่งจะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้นมา ไปจนถึงการสร้างสรรค์ Content ได้ดียิ่งขึ้นด้วย

Google Trend 

เป็นเครื่องมือในช่วงการตรวจสอบสำหรับคีย์เวิร์ด เป้าหมายก็เพื่อการค้นหาว่า ช่วงเวลานี้ มีคีย์เวิร์ดอะไรบ้างที่กำลังเป็นกระแสแต่ก็ไม่ได้แปลว่าคีย์เวิร์ดที่เป็นกระแสแล้วจะอยู่ยืนนานหรือเหมาะกับตัวเราเสมอไป ต้องประเมินความเสี่ยงและการแข่งขันด้วยครับ เพราะการเป็นกระแสหรือเป็นเทรนด์ในเวลานั้น ย่อมหมายถึงการแข่งขันที่รุนแรงไปด้วย ซึ่งเราก็ต้องประเมินด้วยว่า สินค้าที่เราต้องการเป็นขาขึ้นหรือขาลง หรือว่าเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่จริงแท้แค่ไหน

ตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำลังขายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ประเภทกินแล้วขาว ปรากฏว่าเวลานี้กระแสไม่ใช่กินอะไรแล้วขาว หรือมีคู่แข่งมาก ที่อาจจะมีสินค้าเป็นกระแสมากกว่า หรือเห็นผลมากกว่า ถ้าเช่นนั้นก็ต้องปรับเปลี่ยนครับ

Google Keyword Planner 

เครื่องมือสำคัญมากที่ใช้ประเมินว่า คีย์เวิร์ด ที่เราต้องการค้นหา หรือคีย์เวิร์ดที่เราเลือกนั้น มีจำนวนการค้นหาในแต่ละเดือนมากน้อยขนาดไหนโดยส่วนใหญ่ที่ใช้งานกัน ก็ยังมีเป้าหมายอีกข้อคือ เพื่อค้นหาว่า จะมีคีย์เวิร์ดตัวไหนบ้างที่จะเป็นโอกาสให้เราได้ปั้นขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราสร้างธุรกิจ หรือทำ SEO แล้วเพิ่มอันดับของเว็บเราบน Google ได้นั่นเอง

ตัวอย่างเช่น ค้นหาคีย์เวิร์ด เวย์โปรตีน พบว่ามีคนค้นหาข้อมูลเยอะในแต่ละเดือน ก็แปลว่าโอกาสของเราก็มากไปด้วย

Google Ads 

เป็นอีกเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ ซึ่งใช้สำหรับโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้เว็บไซต์ของเราขึ้นมาอยู่หน้าแรกได้ทันที เป็นการช่วยให้คนอื่นได้มองเห็นสินค้าหรือบริการของเราได้รวดเร็วที่สุด

ข้อดีคือ เราไม่ต้องเสียเวลาทำให้ติดอันดับใน Google ด้วยตนเอง และก็ไม่ต้องใช้ SEO มากนักด้วย และเหมาะสำหรับสินค้าประเภทที่มีการแข่งขันรุนแรง เพราะถ้าใช้เวลานานกว่าจะดันเว็บไซต์หรือเพจขึ้นมา อาจจะไม่คุ้มทุนแต่ก็มีข้อด้อยคือ ต้องมีค่าใช้จ่าย “ค่อนข้างสูง” โดยเฉพาะสินค้าหรือบริการที่มีการแข่งขันสูง การแข่งขันกำลังจะกลายเป็นแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กไปทุกขณะ

ดังนั้นการยิงโฆษณาของ Google Adwords ก็จำเป็นต้องวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่จะยิงไปถึงด้วยเช่นกันว่า ตรงกลุ่มอายุ เพศ หรือช่วงเวลาหรือไม่

Google Analytics 

อธิบายง่ายๆว่า นี่เป็นเครื่องมือสำหรับดูข้อมูลของผู้ที่เข้ามาหน้าเว็บไซต์ของเรา ว่าชอบเข้าหน้าไหนบ้าง เวลาไหน และคนกลุ่มไหนในภาพรวมแล้ว ข้อดีของเครื่องมือนี้คือ ให้รายละเอียดค่อนข้างมาก เช่น จำนวนผู้ที่เข้ามาชม เข้ามาจากที่ไหนบ้าง แล้วใช้เวลาดูแต่ละหน้านานแค่ไหน กี่นาที และออกไปลิ้งก์ไหนต่อการมีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์ทางการตลาดได้ชนิดวันต่อวัน หรือเดือนต่อเดือน ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง

ตัวอย่างเช่น เรายิงโฆษณาไปยังกลุ่มคนในภาคใต้ เพื่อหวังจะขยายฐานตลาด แต่ถ้าหากว่าจำนวนคนที่เข้ามาดูนั้นมีภาคใต้น้อย ก็แสดงว่าต้องมีปัญหาบางอย่างในการยิงโฆษณาแล้ว ก็จะช่วยให้เราแก้ปัญหาได้ทันนั่นเอง

Google Webmaster Tools 

เป็นเครื่องมือตั้งเพื่อให้ Google สามารถเข้าถึงและช่วยในการติดอันดับแล้วยังสามารถใช้ตรวจสอบข้อผิดพลาด รวมถึงเข้ามาดูได้ว่า คีย์เวิร์ดของเราอยู่อันดับที่เท่าไรบน Googleหวังว่าเครื่องมือทั้งหมดนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านครับ

===============================================
สามารถติดตามเรา PSO ( Passive Selling Online ) ได้หลายช่องทางดังนี้
Facebook Page: passivesellingonline
LINE: @psocourse (อย่าลืมใส่เครื่องหมาย @ ด้วยนะครับ)

สามารถติดตามเรา PSO ( Passive Selling Online ) ได้หลายช่องทางดังนี้
Facebook Page: passivesellingonline
LINE: @psocourse (อย่าลืมใส่เครื่องหมาย @ ด้วยนะครับ)

แบ่งปันเพื่อนของคุณ :

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn