ทางตั้งหลักออนไลน์ทราบว่า หลายคนกำลังมองหาโอกาสทำธุรกิจออนไลน์ด้วยช่องทางอีคอมเมิร์ซ ซึ่งช่องทางชื่อดังอย่าง Lazada และ Shopee ซึ่งมาแรงที่สุดในเวลานี้คงเป็นตังเลือกอันดับต้น ๆ ในใจของหลายคน
แต่ทั้งสองช่องทางแตกต่างกันอย่างไร มีข้อเด่นข้อด้อย หรือข้อควรระวังอะไรบ้าง
มาลองดูในมุมของ ผู้บริโภคหรือคนซื้อกันครับ
สงครามราคา
แน่นอนว่าราคาเป็นหนึ่งในปัจจัยของการตัดสินใจซื้อ นอกเหนือจากแบรนด์ ยี่ห้อ คุณภาพ และสเปกที่ต้องการ และการตัดราคานี้ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในธุรกิจออนไลน์ที่ทั้ง Lazada และ Shopee สู้รบกันอย่างเมามัน
เดิมที ราคาถูกมากๆๆๆ คือข้อด่นเด่นที่สุดของ Lazada และทำให้คู่แข่งอื่น ๆ อาจจะยากลำบากสักหน่อย ถ้าต้องประกาศขายสินค้าประเภทเดียวกัน นำเข้ายี่ห้อเดียวกัน แล้วแข่งเรื่องราคา แต่ตอนนี้เราจะเห็นว่าร้านค้าหลายรายใน Shopee เองก็สู้เรื่องนี้อย่างเต็มที่ด้วย
ปัญหาคุณภาพสินค้า
Lazada ยังได้เปรียบในข้อนี้อยู่ แต่ปัญหาที่พบจากทั้งสองช่องทางเลยคือ ในกรณีถ้าไม่ใช่แบรนด์ชื่อดัง ของหลายชิ้นมักได้รับคำวิจารณ์ในเรื่องคุณภาพและใช้งานจริงมีปัญหาอยู่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น รองเท้ากีฬา อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ USB สายชาร์จ กาต้มน้ำ ฯลฯ ยิ่งถ้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แล้วเป็นของไม่มียี่ห้อดัง จะพบว่าเป็นของปลอมหรือใช้งานจริงได้ไม่นานครับ
การได้เงินคืน
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเจอสินค้ามีปัญหา ซึ่งทาง Lazada การันตีการขอเงินคืนได้ แต่ขั้นตอนอาจจะยุ่งยาก และดำเนินการช้าไปบ้าง แต่การได้เงินคืนค่อนข้างแน่นอน
ส่วน Shopee ดูเหมือนจะยังมีปัญหาเรื่องนี้อยู่พอสมควร คือทางร้านไม่กดยอมคืนเงิน
ในส่วนนี้อาจเห็นว่า Shopee ค่อนข้างเอื้อประโยชร์ต่อผู้ขาย และยังไม่มีกลไกปกป้องการเงินต่อลูกค้าที่ดีพอ ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่คนยังบ่นกันอยู่ แต่ก็หวังว่า จะได้มีการแก้ไขในส่วนนี้ในอนาคตต่อไป
ค่าส่ง
ทั้งสองช่องทางมีค่าส่งฟรีก็จริง แต่ส่วนใหญ่ก็มักซื้อเกินขั้นต่ำอยู่แล้วครับ
ระบบอบรมชัดเจน
เป็นข้อเด่นทที่สุดของทาง Lazada เลยครับ เพราะเป็นเรื่องของการเซ็นข้อตกลงร่วมกันกับรัฐบาลไทย ที่ทำให้บริษัทในเครืออาลีบาบาเข้ามาเปิดโรงเรียนสอนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยผ่านทาง Taobao University และอบรมสอนการใช้งานและเปิดร้านสำหรับ Lazada ไปด้วย จึงเป็นการช่วยเพิ่มผู้ค้าให้มากและหลากหลายขึ้นอีกทางหนึ่ง
โดยสรุปแล้ว ทั้งสองช่องทางมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองในสถานะของผู้ขายหรือผู้ซื้อด้วยครับ ซึ่งจะเห็นว่า ในภาพรวมแล้ว Lazada มีระบบบางส่วนที่ทำได้ดีกว่า จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมบริษัท แบรนด์ และร้านค้าหลายแห่งในไทยนิยมนำของมาขายช่องทางนี้เป็นหลัก และ Lazada ก็เป็นอีคอมเมิร์ซของจีนที่กำลังเจาะและมีส่วนแบ่งในตลาดของไทยและอาเซียนได้มากที่สุดในเวลานี้ด้วย